ฟันสึกกร่อน... จากการว่ายน้ำ
เมื่อ 2-3วันก่อน หมอไปอ่านเจอเรื่องนี้ มาจากเพจฟันน้ำนม บอกตรงๆครับว่า ตัวหมอเองก็เพิ่งจะทราบเหมือนกันว่า_คลอรีนที่ผสมในสระว่ายน้ำ มีผลทำให้ฟันของเรา ...สึกกร่อนได้ โดยเฉพาะในเด็กๆ
....หมอจึงไปหาข้อมูล มาอ่านเพิ่มเติมครับ พออ่านไปแล้ว คิดว่า มีประโยชน์มาก เพราะปัจจุบันนี้ เด็กๆต้องเรียนว่ายน้ำกันที่โรงเรียนกันเเทบทุกคน จึงขอเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันนะครับ
.............................................
....การว่ายน้ำ สามารถทำให้ฟันสึกกร่อนได้ ....เหตุผลเพราะ....
... สระว่ายน้ำโดยปกติแล้ว จะมีการใส่คลอรีน ....อันนี้เราคงทราบๆกันดีอยู่แล้ว
.....แต่ที่เราไม่ค่อยจะทราบกัน ก็คือ ชนิดของคลอรีนที่นำมาใส่ และปริมาณของคลอรีน ที่ใส่ลงไปในสระว่ายน้ำนั้น มีผลที่จะทำให้ น้ำในสระว่ายน้ำเป็นกรด มากหรือน้อยได้ ซึ่งถ้าน้ำในสระว่ายน้ำนั้น มีความเป็นกรดมาก (PH ต่ำ) ก็จะมีผลในการกัดกร่อนฟัน ของผู้ที่ว่ายน้ำในสระนั้นได้ และยังรวมถึงระยะเวลาความถี่ที่ลงว่ายน้ำด้วย ...มาดูรายละเอียดแต่ละอย่างกันครับ
1) ชนิดของคลอรีน
..พบว่า ถ้าเป็นเลือกใช้คลอรีน ชนิดแคลเซียมไฮโปคลอไรท์ หรือ โซเดียมไฮโปคลอไรท์ จะมีความเป็นด่าง(PHสูง) จึงไม่ค่อยมีผล ทำให้ฟันสึกกร่อน แม้จะเล่นน้ำเป็นเวลานานก็ตาม
- แต่พบว่า ในปัจจุบัน สระว่ายน้ำส่วนใหญ่ จะนิยมใช้คลอรีน กลุ่มไตรคลอโรไอโซไซยานูริกแอซิด เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูก แล้วยังช่วยกำจัดสาหร่ายตะไคร่น้ำ และทำให้น้ำใสด้วย แต่ข้อเสียของคลอรีนในกลุ่มนี้ คือจะทำให้น้ำเป็นกรดได้มาก (PH 2.5-2.7)
2) ความเข้มข้นของคลอรีน
- นอกจากชนิดของคลอรีนแล้ว ยังพบว่า ความเป็นกรดของน้ำในสระ ยังขึ้นกับ มาตราฐานในการเติมคลอรีน ของผู้ดูแลสระว่ายน้ำด้วย
- พบว่า สระว่ายน้ำบางแห่ง วันไหนที่คน จะมาใช้สระกันมาก หรือวันที่มีฝนตก ผู้ดูแลสระว่ายน้ำ มักจะเติมคลอรีนในสระว่ายน้ำในวันนั้น ให้มากขึ้นกว่าปกติ เพื่อทำให้ระดับของคลอรีนในสระ ไม่มีปริมาณที่ลดลง แต่จะมีผลทำให้ความเป็นกรดของน้ำในสระ มากขึ้นตามด้วย (PH ของสระว่ายน้ำจะต่ำลง)
......ข้อบังคับของกรุงเทพมหานคร กำหนดให้สระว่ายน้ำ ต้องมีปริมาณคลอรีนอยู่ในช่วง 0.6-1.0 มิลลิกรัม/ลิตร และมีค่าเป็นกรดด่างอยู่ระหว่าง PH 7.2-8.4
- และในทางปฏิบัติ ต้องมีการวัดค่าความเป็นกรดด่าง ของสระว่ายน้ำทุกวัน ถ้าน้ำมีความเป็นกรดมากเกินไป ผู้ดูแลสระว่ายน้ำ จะต้องมีการแก้ไขสภาพสระว่ายน้ำนั้นด้วย
.....เมื่อทราบมาตราฐานว่า เป็นแบบนี้แล้ว ลองมาดูผลสำรวจ ตัวอย่างน้ำในสระว่ายน้ำกันนะครับ ว่าเป็นอย่างไร
- ปี 2005 มีการสำรวจตัวอย่างน้ำ จากสระว่ายน้ำ 139 แห่งใน 15จังหวัด พบว่า น้ําในสระว่ายน้ํามีค่าความเป็นกรด - ด่าง ต่ำกว่ามาตรฐานที่กําหนดเกือบๆ 90% (เกือบทุกแห่ง ก็ว่าได้)
3) ระยะเวลาที่สัมผัสน้ำ
- สภาพความเป็นกรดในสระว่ายน้ำนี้ จะกัดกร่อนฟันของคนที่ว่ายน้ำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในคนที่ว่ายน้ำนาน (วันละเป็นชั่วโมง) และว่ายเป็นประจำ (สัปดาห์หนึ่ง ว่ายน้ำหลายวัน) ...ก็จะเห็นผลที่ชัดเจนมาก
.....สิ่งที่เป็นตัวยืนยันได้ดี คือ ข้อมูลการสำรวจ การเกิดฟันกร่อน ในนักว่ายน้ำของไทยเรา ซึ่งพบว่า
- ปี 2538 สำรวจนักว่ายน้ำที่ พิษณุโลก นักว่ายน้ำที่มีฟันสึกกร่อน พบถึง 100%
- ปี 2541 สำรวจนักว่ายน้ำที่ กรุงเทพ นักว่ายน้ำที่มีฟันสึกกร่อน พบถึง 90%
- ปี 2554 สำรวจนักว่ายน้ำที่ เชียงใหม่ นักว่ายน้ำที่มีฟันสึกกร่อน พบถึง 100%
....ในขณะที่ต่างประเทศ(USA) สถิติการสึกกร่อนของฟันในนักว่ายน้ำ อยู่ประมาณ 40-60%
.............................................
....การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ ที่มีน้ำเป็นกรดนี้ ทำลายฟันเราอย่างไร
....ความเป็นกรด จะมีผลทำให้ผิวเคลือบฟัน (Enamel) ค่อยๆสึกกร่อนหายไป เมื่อชั้นเคลือบฟันบางลง จนใกล้ชั้นของเนื้อฟัน (Dentine) ก็จะทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ และอาจทำให้สีฟัน มีสีเหลืองเข้มขึ้น เนื่องจากเห็นสีของเนื้อฟันมากขึ้น และถ้าทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่มีการแก้ไข ก็จะมีการสูญเสียเนื้อฟันต่อไป ทำให้อาการเสียวฟันเป็นเพิ่มมากขึ้น และยังจะมีปัญหาด้านความสวยงาม และปัญหาการสบฟัน ตามมาได้อีก
....โดยฟัน ที่พบปัญหาได้บ่อยมากที่สุด คือ ฟันหน้า (เพราะโดนน้ำมากที่สุด)
....ภาวะเหล่านี้ จะเกิดได้ง่ายมากขึ้น ในเด็ก (โดยเฉพาะเด็กอายุ 7-8ขวบ) เนื่องจากฟันแท้ ด้านหน้าของเด็ก เพิ่งขึ้นใหม่ ผิวเคลือบฟันจะยังไม่ดี จึงทนต่อความเป็นกรดได้น้อยกว่าปกติ
......เพิ่มเติม....
....สาเหตุของการเกิดฟันกร่อน สามารถเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆได้อีกหลายอย่างนะครับ เช่น การทานอาหาร เครื่องดื่มที่เป็นกรดสูง (รสเปรี้ยว,น้ำอัดลม) , ทานอาหารแข็งๆ ...เป็นประจำ /การแปรงฟันที่ผิดวิธี ,ใช้แปรงสีฟันที่แข็งเกินไป / โรคกรดไหลย้อน / ผู้ป่วยที่มีปัญหาการอาเจียนบ่อย ...เหล่านี้เป็นต้น
..........................................................................
....คำแนะนำสำหรับ การป้องกันฟันกร่อน จากการว่ายน้ำ
1) เลือกใช้บริการสระว่ายน้ำที่ได้มาตรฐาน มีการควบคุมค่ากรดด่างในน้ำ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตลอด
- สระว่ายน้ำแบบเกลือ เป็นทางเลือกที่ดีนะครับ เพราะข้อมูลจนถึงปัจจุบัน สระว่ายน้ำแบบเกลือ ยังไม่มีรายงานถึงความสัมพันธ์ กับการเกิดฟันสึกกร่อนขึ้นครับ
2) ในระหว่างการว่ายน้ำ แนะนำดังนี้
- หลี่กเลี่ยง การอมน้ำในสระว่ายน้ำ ไว้ในปาก
- หลี่กเลี่ยง การดื่มเครื่องดื่ม ที่มีผลกัดกร่อนฟัน เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ไวน์ และหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารเเข็งๆ ในระหว่าง และหลังจากว่ายน้ำ 1-2 ชั่วโมง
- แนะนำให้ดื่มนม เพราะนมจะมีผลในการ buffer กรดในช่องปากให้น้อยลง จึงช่วยลดการกัดกร่อนฟันจากกรดได้
- หลี่กเลี่ยงการแปรงฟันทันที หลังจากว่ายน้ำเสร็จใหม่ๆ ควรเว้นระยะประมาณ 1-2ชั่วโมง การแปรงฟันทันที หลังว่ายน้ำ เป็นการทำลายผิวเคลือบฟัน ให้เพิ่มมากขึ้นได้
- ฟลูออไรด์ สามารถช่วยลดการกร่อนของฟัน และลดการเสียวฟันได้ จึงแนะนำให้บ้วนปากด้วย น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ หรือใช้เจลฟลูออไรด์เสริม ภายหลังจากว่ายน้ำ
....แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนนะครับ เพราะฟลูออไรด์ถ้าใช้ไม่ถูกต้อง ก็จะเกิดผลเสียได้ โดยเฉพาะในเด็กนะครับ
3) ควรพบทันตแพทย์ ตรวจสภาพฟัน ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มว่ายน้ำ เพราะถ้ามีการกัดกร่อนของฟัน ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทันตแพทย์จะได้ช่วยหาทางแก้ไข และป้องกันให้ก่อน
- หากต้องว่ายน้ำเป็นประจำ ( เช่น นักกีฬาว่ายน้ำ) ควรพบทันตแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำ ในการทำเฝือกยาง ครอบฟันตอนว่ายน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟัน สัมผัสกับน้ำมากไป
- และหลังจากเริ่มว่ายน้ำไปแล้ว ก็ควรพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจฟันเป็นประจำ ทุก 3-6 เดือน นะครับ
Credit:
- http://www.dent.cmu.ac.th/…/full…/fulltext_2558_35_2_355.pdf
- เพจ ฟันน้ำนม
https://www.facebook.com/thaimilkteeth/photos/a.253807154764430.1073741828.235991326546013/705623029582838/?type=1
- https://www.facebook.com/media/set/…
- http://m.psu.ac.th/th/node/3824
- http://www.jdat.org/dentaljournal/en/download/2013-63-2…
- https://www.facebook.com/earnosethroat.allergy/posts/455387094621914:0
หน้าที่เข้าชม | 195,411 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 111,832 ครั้ง |
เปิดร้าน | 6 ก.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |