อาจกล่าวได้ว่า "ของเล่น" เป็นเพื่อนที่สร้างความสุขให้กับเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก แต่สำหรับเด็กพิเศษ ยังไม่มีการเจาะจงว่าของเล่นชิ้นไหนเหมาะกับเด็กพิเศษกลุ่มใด และปัจจุบันยังไม่ค่อยมีใครเข้ามาทำ หรือผลิตของเล่นสำหรับเด็กกลุ่มนี้อย่างแท้จริง
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้กลุ่มแม่ ๆ ที่มีลูกเป็นเด็กพิการ และเด็กพิเศษรวมตัว และลุกขึ้นมาเป็นนักออกแบบของเล่นเสียเอง โดย แม่นก-เสาวภา ธีระปรีชากุล คุณแม่ที่มีลูกพิการทางสมอง เป็นตัวแทนบอกเล่าความตั้งใจผ่านทีมข่าว Life & Family ว่า เธออยากเห็นของเล่นสำหรับเด็กพิการบ้าง ถึงแม้ร่างกายของเด็ก ๆ กลุ่มนี้จะไม่สมบูรณ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังสมบูรณ์ก็คือหัวใจแห่งความเป็นเด็กที่ยังอยากจะสนุก อยากจะเล่น และอยากที่จะมีของเล่นเหมือนกับเด็กทั่วไป
"ของเล่นที่ขายในท้องตลาด ตอบสนองลูกเราได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมด อย่างโมบาย เด็กทั่วไปอาจได้รับการตอบสนองที่ดี แต่ถ้าเด็กพิเศษ หรือเด็กพิการที่เป็นหนัก ๆ ตาไม่จ้อง มือไม่คว้า ของเล่นชิ้นนั้นก็ไม่สามารถกระตุ้นพัฒนาการได้เต็มที่" แม่นกเผยถึงที่มาของปัญหา
ส่วน แม่น้อย-สุดารัตน์ บับภาร คุณแม่ที่มีลูกพิการทางสมองอีกท่านหนึ่ง มีความคิดเช่นเดียวกันว่า เด็กพิการ และเด็กพิเศษจำเป็นต้องมีของเล่นที่เหมาะสมกับเขา เพราะเท่าที่มีในท้องตลาด ยังตอบสนอง และกระตุ้นพัฒนาการได้ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากทำมาเพื่อเด็กทั่วไป แต่สำหรับเด็กพิการ และเด็กพิเศษแล้ว ของเล่นที่ผลิตขึ้นมาต้องเกิดจากความเข้าใจถึงปัญหาของเด็กอย่างแท้จริง และแม่ก็คือคนที่เข้าใจปัญหาได้ดีที่สุด
ดังนั้น ทั้งแม่นก และกลุ่มแม่ ๆ ในเครือข่ายของเธอจึงลุกขึ้นมาทำของเล่นเพื่อลูกคนพิเศษ เพราะเชื่อว่า เด็กต้องได้รับการเรียนรู้ และของเล่นก็คือเครื่องมือชั้นดีในการให้เด็กเหล่านี้เรียนรู้เพื่อเสริมพัฒนาการให้ดียิ่งขึ้น โดยร่วมมือกับบริษัทผลิตของเล่นอย่าง "แปลนทอยส์" ที่มีแนวความคิดเดียวกันในการผลิตของเล่นเพื่อเสริมพัฒนาการให้เด็กพิเศษในชื่อโครงการ Mom-made toys
สำหรับการทำงานในครั้งนี้ กลุ่มแม่ ๆ จะทำงานร่วมกับ Toy Designer จากแปลนทอยส์ 3 ท่านในการระดมความคิด ออกแบบ ดีไซน์ รวมไปถึงทดสอบร่วมกันทุกขั้นตอน จนได้ของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับเด็กพิเศษทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ เด็กพิการทางสมอง (CP) เด็กออทิสติก และ เด็กที่มีความพิการทางสายตา โดยมีทีมนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.ปทุมธานี และโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษา และให้ความรู้ในการผลิตของเล่นเพื่อเด็กแต่ละกลุ่ม
"เมื่อพวกเรามีคนมาช่วยกันสานความฝันให้เป็นจริง การทำของเล่นจึงไม่ใช่แค่กลุ่มลูกของเราอย่างเดียว เราต้องคิด และทำเพื่อเด็กพิเศษคนอื่น ๆ ทั่วประเทศด้วย ซึ่งกลุ่มแม่นกทำหน้าที่ระดมความคิดจากแม่ ๆ ทั้งที่มีลูกพิการทางสมอง ออทิสติก และพิการทางสายตามาร่วมกันออกแบบของเล่นเพื่อลูก เพราะแม่คือคนที่รู้ดีที่สุดว่าลูกต้องการอะไร ชอบอะไร และควรจะได้เพิ่มเติมการเรียนรู้ในอะไร จากนั้นช่วยกันคัดเลือกของเล่นที่ดีที่สุดต่อไป" คุณแม่นกเล่าคร่าว ๆ ถึงขั้นตอนการทำงาน
ขณะนี้กลุ่มแม่ ๆ ได้ทำงานด้วยความมุ่งมั่นร่วมกับทีมดีไซเนอร์ในการออกแบบของเล่นเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทั้งยังได้แบบของเล่นในแต่ละกลุ่ม และคัดออกมาประมาณ 2-3 แบบ ซึ่งคาดว่า ตัวต้นแบบ (Prototype) จะเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ โดยของเล่นสำหรับเด็กแต่ละกลุ่มจะมีความพิเศษแตกต่างกันไปออกไป ดังรายละเอียดต่อไปนี้
กลุ่มเด็กพิการทางสมอง (CP)
สำหรับเด็กพิการทางสมอง "ของเล่น" ถือเป็นเครื่องกายภาพบำบัดที่จะช่วยให้พวกเขาอยากจะขยับร่างกาย แม้ในรายที่ขยับตัวไม่ได้เลย แต่การปรายตามอง นั่นคือการกระตุ้นการรับรู้ให้พวกเขาได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ของเล่นที่กลุ่มแม่ ๆ ช่วยกันคิดโดยมีนักออกแบบเป็นที่ปรึกษาในการผลิตจึงคัดเลือกออกมา 2 แบบ โดยแบบแรก วริฏฐา ผลเจริญ ทีมนักออกแบบของเล่นสำหรับเด็กกลุ่มนี้ บอกว่า เป็นของเล่นรูปสัตว์ล็อคที่ข้อมือเพื่อให้เด็กได้จับโดยไม่หลุด ซึ่งคุณแม่หรือคุณพ่อสามารถเล่าเรื่องราวของสัตว์สอดแทรกความรู้ไปพร้อม ๆ กับเปลี่ยนหัวสัตว์เพื่อการเล่าเรื่องอย่างหลากหลาย ช่วยบำบัดให้เด็กขยับแขน ใบหน้า และสายตาได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนแบบที่สอง เป็นแผ่นกลิ้งตัวที่ประยุกต์ขึ้นมาจากเตียงสามเหลี่ยมที่ใช้กายภาพบำบัดเด็กพิการทางสมอง เป็นการนวด และกระตุ้นไปทั่วร่างกาย เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้จะมีปัญหาเรื่องผิวสัมผัส และเรื่องการทรงตัว ดังนั้นเด็ก CP ระดับรุนแรง คุณแม่สามารถช่วยลูกกลิ้งตัวผ่านผิวสัมผัสต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหว ส่วนระดับอ่อน ๆ ให้เด็กเดิน กลิ้ง และคานเพื่อฝึกทักษะ
เด็กพิการทางสายตา
เด็กในกลุ่มนี้ ของเล่นอาจไม่ทำให้พวกเขามองเห็น แต่จะช่วยเสริมพัฒนาการทางการได้ยิน และสัมผัสให้ดีขึ้น ดังนั้นของเล่นที่เหมาะสม นักออกแบบอย่าง ประเวศน์ หงส์ทอง ได้นำแบบร่างของคุณแม่มาสร้างเป็นตัวต่ออักษรเบลล์ ช่วยให้เด็กเรียนรู้เรื่องอักษรเบลล์ เช่น ตัวเลข ทั้งยังเรียนรู้ที่จะเล่นกับผู้อื่นเพื่อสร้างทักษะทางสังคมไปพร้อม ๆ กันด้วย
เด็กออทิสติก (Autism)
สำหรับเด็กออทิสติก ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เป็นเด็กที่มีร่างกายปกติสมบูรณ์คนหนึ่ง แต่สิ่งที่ขาดไปก็คือโลกภายนอก ดังนั้นของเล่นสำหรับเด็กกลุ่มนี้ คือเครื่องสื่อสารที่จะช่วยเชื่อมต่อโลกของเขาเข้ากับครอบครัว เข้ากับเพื่อน ๆ ในสังคม
ดังนั้น ของเล่นสำหรับกลุ่มเด็กนี้ วทัญญู ปิติวัฒนกุล นักออกแบบของเล่นที่รับผิดชอบในกลุ่มนี้ จึงทำออกมาเป็นของเล่นช่วยฝึกให้เด็กเรียนรู้เรื่องสีหน้า และอารมณ์เพื่อรู้จักตนเองและผู้อื่น สามารถประยุกต์ได้ทั้งการเล่าเรื่องราว การใช้ชีวิตอยู่ในเหตุการณ์ต่าง ๆ หรือประยุกต์เป็นขั้นตอนการฝึกผูกเชือกรองเท้า หรือรูปเกี่ยวกับพ่อแม่ เพื่อฝึกเรียกพ่อและแม่ก็ได้
ส่วนอีกแบบที่กลุ่มแม่ ๆ ช่วยกันคิด และอยากนำไปใช้เล่นกับลูกก็คือ ของเล่นฝึกออกเสียงจากการเป่า เพราะเด็กออทิสติกจะควบคุมเสียงได้ไม่คล่อง ชอบดูดอากาศเข้ามาเวลาพูด ทำให้เกมนี้คือการเป่าลมออก ทำให้เด็กสนุก และไม่เบื่อง่าย
"ของเล่นที่ทำออกมาจะมีประโยชน์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะนำมาเล่นกับลูกมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีของเล่น แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ใช้เล่นกับลูกบ่อย ๆ ลูกก็จะมีไม่มีโอกาสได้พัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ครับ" วทัญญู นักออกแบบของเล่นเป็นตัวแทนของทีมฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ในการใช้ของเล่นกับลูก
อย่างไรก็ดี ทันทีที่ของเล่นออกมาเป็นร่าง 3 ชิ้น ได้แก่ ของเล่นที่เหมาะสำหรับเด็กออทิสติก เด็กพิการทางสมอง (CP) และเด็กพิการทางสายตา ทางบริษัทแปลนทอยส์ จะผลิตของเล่นออกมาจำนวน 20,000 ชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้เด็กพิเศษทั่วประเทศต่อไป จากนั้นจะระดมทุนทั้งจากภายในประเทศไทย และทั่วโลก เพื่อทำให้ของเล่นเพิ่มจำนวนขึ้นในอนาคตอีกด้วย
*** สามารถเข้าไปดูเรื่องราวของคุณแม่ และการทำงานของนักออกแบบของเล่นเพื่อเด็กพิเศษในโครงการ Mom-made toys ได้ทาง www.facebook.com/ mommadetoys
Credit: http://www.manager.co.th/ (ผู้จัดการออนไลน์)
หน้าที่เข้าชม | 195,411 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 111,832 ครั้ง |
เปิดร้าน | 6 ก.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |